Share

บทที่ 5 ตกอกตกใจ   

"สกุลหลี่?"

พี่เป้ามองไปทางหลี่เฟิง ถามขึ้นอย่างสงสัย "มีคนชื่อหลี่เฟิงเข้ามาครับ ผมกำลังจะจัดการเขาพอดี"

สายอีกฝั่งชะงักไป ได้ยินเสียงตุบหล่นลงมา

พี่เป้ารีบร้อนถามขึ้น "คุณชายสาม คุณเป็นอะไรไป?"

ครู่ต่อมา ก็มีเสียงคำรามกราดเกรี้ยวเหมือนฟ้าผ่าพุ่งเข้ามาในหูพี่เป้า

"ชั้นทำไมน่ะหรือ? ไอ้สารเลวอย่างแกคิดจะฆ่าชั้นหรือไรกัน!"

"ชั้นจะบอกให้นะ! เขาให้แกทำอะไรแกก็ทำไป จัดการให้แบบเดียวกับศาลบรรพบุรุษเลยเข้าใจนะ!"

"พี่เป้าตกตะลึงไป กี่ปีแล้วนะที่เขาไม่เคยเห็นคุณชายสามเสียอาการขนาดนี้"

เขาย้อนถามกลับไปด้วยสัญชาตญาณ "คุณชายสาม คุณจำอะไรผิดหรือเปล่า? เขาเป็นแค่ลูกเขยเข้าบ้านไม่ได้เรื่องของตระกูลฉินเท่านั้นเองนี่"

"เสิ่นเป้า แกอยากตายหรือไรกัน? ในสายตาเขา ชั้นกับแกก็แค่ต้นหญ้าริมทางเท่านั้น! เขาแค่เหยียบเบาๆ ก็ป่นกระดูกพวกเราทิ้งได้แล้ว!"

"คุณชายสาม...นี่มัน..."

พี่เป้าฟังจนเหงื่อแตกพลั่ก

"ชั้นจะกำชับครั้งสุดท้าย เขาเป็นตัวตนระดับที่ชั้นคุกเข่าก็ยังไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองด้วยซ้ำ แกจัดการให้ดี"

พูดจบ โทรศัพท์ก็วางลงดังโครม

พี่เป้างงตาแตก ตอนตั้งสติกลับมาได้ ก็พบว่าตัวเองหลังชุ่มไปด้วยเหงื่อเย็น แข้งขาสั่นระริกขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้

พอเห็นว่าพี่เป้าไม่มีปฏิกิริยาไปนานสองนาน ฉินหลันจึงขึ้นมาถามว่า "พี่เป้า คุณเป็นอะไรไป รีบๆ จัดการขยะสองตัวนี้เสียสิ"

"จัดการ? จัดการแม่แกสิ!"

จากนั้นจึงได้ยินเสียงตะคอกขึ้นมา

เพียะ!

พี่เป้าหลังมือตบฉาดใส่หน้าฉินหลัน

ฉากที่มาอย่างกะทันหันนี้ทำเอาทุกคนงงงันไปหมด

ฉินหลันถูกตบจนโซซัดโซเซ ใบหน้าเล็กประณีตแต่เดิมบวมปูดขึ้นในพริบตา

เธอกุมหน้า พูดขึ้นเหมือนอยากจะร้องไห้ "พี่เป้า...ชั้นมาซื้อรถนะ คุณควรไปเล่นงานพวกเขาถึงจะถูกสิ"

"ที่จะอัดคือนังสารเลวอย่างแกนี่ล่ะ! ถ้าไม่ใช่เห็นแก่หน้าตระกูลฟาง วันนี้ข้าจะเล่นแกให้ตายไปเลย! ไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้!"

ฉินหลันกุมหน้าพูดอะไรไม่ออกอยู่พักใหญ่ แต่ก็ไม่กล้าระเบิดอารมณ์ ทำได้แค่ถลึงตาจ้องฉินชิงทั้งสองคนอย่างมาดร้าย กระฟัดกระเฟียดออกประตูไป

ตอนที่เดินผ่านหลี่เฟิง ยังไม่ลืมทิ้งมาคำหนึ่ง "เจ้าบ้าอย่างแก คอยดูเถอะ!"

จากที่ฉินหลันเห็น ที่เธอถูกตบนี่ทั้งหมดต้องโทษหลี่เฟิง

ฉินชิงเองก็อดดึงแขนหลี่เฟิงให้ถอยหลังไม่ได้ เอ่ยเสียงต่ำขึ้นว่า "หลี่เฟิง พวกเราก็รีบไปเถอะ..."

ยังไม่ทันที่หลี่เฟิงจะมีปฏิกิริยา พี่เป้าก็สาวเท้าตรงเข้ามาหาพวกเขาแล้ว

ฉินชิงยิ่งหวาดกลัวเข้าไปอีก

แต่คิดไม่ถึงว่า พี่เป้าจะโค้งตัวเก้าสิบองศาให้ เอ่ยขึ้นด้วยเสียงสั่นเทา "คุณหลี่ คุณหนูฉิน ก่อนหน้านี้เป็นความผิดของผมเอง หวังว่าทั้งสองท่านจะใจกว้าง ไม่เก็บไปใส่ใจ..."

นี่มัน?

ฉินชิงงงตาแตก ทำไมพี่เป้าพอรับโทรศัพท์แล้วอย่างกับเปลี่ยนเป็นคนละคน

"หนีที่ติดค้างตระกูลฉินคืนได้แล้วใช่ไหม?" พอเห็นท่าทีของพี่เป้า หลี่เฟิงไม่รู้สึกแปลกใจเลยสักนิด อธิบายได้ว่าเซวียจั้นหลงจัดการเรื่องเรียบร้อยแล้ว

พี่เป้ารีบร้อนพยักหน้า "ได้ได้ได้...กระผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้..."

รอจนทั้งสองคนเดินออกจากตลาดซื้อขายรถยนต์ ในมือฉินชิงก็หยิบเช็คบัญชีที่ต้องการกลับมา ดูเหม่อลอยไปทั้งตัว

เธอหันหน้ากลับมามองหลี่เฟิงเป็นระยะ หรือว่าทั้งหมดนี้หลี่เฟิงเป็นคนจัดการ?

ขณะเดียวกัน

ในบ้านพักตากอากาศแห่งหนึ่งในเมืองหลัน

พูดถึงคุณชายสามที่ชื่อเสียงเลื่องลือ ตอนนี้กำลังคุกเข่าตัวสั่นเทาอยู่บนพื้น และตรงหน้าเขา ก็มีชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ในชุดทหารคนหนึ่งนั่งอยู่

เซวียจั้นหลงเอ่ยขึ้นเรียบๆ "เสิ่นซาน ถือว่าแกยังฉลาดนะ ถ้าหากพี่ใหญ่เกิดเรื่องอะไรขึ้นจริงล่ะก็ แกตอนนี้คงโดนยัดห้องขังไปแล้ว"

"ขอบคุณความใจกว้างของท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด"

ราวกับเกิดใหม่หลังเจอภัยพิบัติ คุณชายสัมผัสได้ว่าแรงกดดันบนตัวคลี่คลายลงไปไม่น้อย เขาก้มหน้าอ้อนวอน "กระผมไม่รู้ว่านายท่านผู้นั้นมาถึงเมืองหลันแล้ว แล้วยังเกือบถูกลูกน้องไปจาบจ้วงอีก ไม่ทราบว่าจะให้ข้าน้อยจัดงานเลี้ยงให้กับนายท่านผู้นั้นเป็นการขอขมาได้หรือไม่"

"อีกเดี๋ยวชั้นจะไปถามให้แล้วกัน"

"ขอบคุณท่านผู้บัญชาการทหารสูงสุด"

……

เขตชุมชนหลันหยวนเป็นเขตชุมชนเก่าแก่หลายสิบปีของเมืองหลัน ครอบครัวของฉินชิงตอนนี้อาศัยอยู่ที่นี่

ตอนที่ฉินชิงทั้งสองคนกลับมาถึง ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว

พอเห็นฉินชิงกับหลี่เฟิงปรากฏตัว สามีภรรยาหลิ่วฮุ่ยฟางที่รออยู่หน้าประตูเขตชุมชนนานแล้วก็ตรงเข้ามา "เสี่ยวชิง แกไม่เป็นไรใช่ไหม? พี่เป้าทำอะไรแกหรือเปล่า?"

"แม่ หนูไม่เป็นไร ต้องขอบคุณหลี่เฟิง เงินก้อนนี้ทวงกลับมาได้แล้ว"

ฉินชิงหันหน้าไปมองหลี่เฟิงแล้วเอ่ยขึ้นมา

"หลี่เฟิงอะไร! นี่แกเชื่อจริงๆ หรือว่าเจ้าคนบ้าไม่ได้เรื่องนี่มันมีฝีมือ?"

หลิ่วฮุ่ยฟางเหลือบมองหลี่เฟิงอย่างหยามหมิ่นผาดหนึ่ง อธิบายขึ้นว่า "ถ้าไม่ใช่พวกเรารบกวนคุณชายโจวให้ช่วยเหลือ หนีก้อนนี้จะเอากลับมาได้อย่างไรกัน?"

หนี้ก้อนนี้ได้โจวไท่ช่วยทวงกลับมางั้นหรือ?

ฉินชิงพอได้ยินคำนี้ ก็งงงันไปเล็กน้อย

หลี่เฟิงเองก็หรี่ตาลงสีหน้านิ่งเฉย

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินชื่อโจวไท่

"เสี่ยวชิงแกต้องไปขอบคุณคุณชายโจวดีดีนะ แม่แค่ลองไปขอความช่วยเหลือจากเขา ไม่คิดเลยว่าเขาจะรับปากโดยไม่อิดออดสักคำ"

"คุณชายโจวจะเชิญครอบครัวเราไปกินอาหารค่ำด้วยกัน ครั้งนี้แกห้ามเลี่ยงอีกนะ!"

ฉินชิงปฏิเสธออกมาด้วยสัญชาตญาณ "แม่ หนูไม่ไปได้ไหม? วันนี้หลี่เฟิงเพิ่งจะหายดี เราไม่ควรมาฉลองกันเสียหน่อยหรือ?"

หลิ่วฮุ่ยฟางมองบน "เจ้าบ้านี้หายดีมีอะไรน่าฉลองกัน คุณชายโจวช่วยเหลือเอาไว้ วันนี้ไม่ว่าอย่างไรแกก็ต้องไปกับพวกเรา!"

พ่อตาฉินฉางเหอเองก็พยักหน้า "แม่แกพูดไม่ผิดหรอก วันนี้ยังไงแกก็ต้องไปด้วย"

ฉินชิงมองหลี่เฟิงอย่างลำบากใจ เอ่ยขึ้นว่า "พวกเราไปกินข้าว แล้วหลี่เฟิงจะทำอย่างไรล่ะ?"

"แกจะไปสนใจใยดีเขาทำไม..." หลิ่วฮุ่ยฟางพูดไปด้วย พลากผลักฉินชิงขึ้นบ้าน "แกรีบไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเลย แต่งหน้าให้สวยๆ ด้วยเข้าใจไหม?"

ฉินชิงก้าวไปพลางเหลียวหลังกลับ หลี่เฟิงกลับขมวดคิ้วแน่น

"หลี่เฟิง แกจะมาทำหน้าตาแบบนี้ให้ใครดูกัน รีบไสหัวออกไป ครอบครัวของเราไม่ต้อนรับแก" ฉินฉางเหอพอเห็นสถาพ ก็เอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์

ตอนนี้ แลนด์โรเวอร์คันหนึ่งก็มาจอดรอที่ชั้นล่างของบ้านฉินชิง

และก็เห็นสาวสวยมีเสน่ห์เป็นธรรมชาติคนหนึ่งลงมาจากรถ

เธอชื่อว่าเสิ่นเทียนเม่ย เป็นเพื่อนสาวของฉินชิงมาหลายปี

"คุณลุงคุณป้า เสี่ยวชิงล่ะ? คุณชายโจววานให้หนูมารับพวกคุณค่ะ"

จู่ๆ เสิ่นเทียนเม่ยก็เห็นหลี่เฟิง ประหลาดใจอย่างมาก "หลี่เฟิง ตาบ้านี่วิ่งออกมาจากโรงพยาบาลหรือ?"

หลิ่วฮุ่ยฟางรีบร้อนดึงตัวเธอออกมา อธิบายกับเธอไปรอบหนึ่ง

เสิ่นเทียนเม่ยเข้าใจขึ้นมา จ้องเขม็งหลี่เฟิงด้วยสีหน้าหยามหมิ่น

พิธีแต่งงานเมื่อสามปีก่อน หลี่เฟิงหายไปไม่บอกกล่าว ทำให้เพื่อนสาวของเธอกลายเป็นตัวตลกของคนทั้งเมือง ต่อมาก็กลายเป็นคนบ้าจนทำให้ครอบครัวฉินชิงต้องอดมื้อกินมื้ออีก เสิ่นเทียนเม่ยจึงรู้สึกดูถูกสามีที่เป็นบ้าของเพื่อนสาวคนนี้มาก

"หลี่เฟิง ในเมื่อหายดีแล้ว ยังจะมาอยู่ข้างๆ ฉินชิงทำไมกัน เป็นผู้ชายก็อยู่ห่างเขาหน่อย อย่ามาขวางสิทธิ์ที่จะไล่ตามความสุขของฉินชิงเลย"

"คุณชายโจวเป็นคุณชายน้อยแห่งโจวกรุ๊ป โจวหยวนเฟิงพ่อของเขาเป็นหัวหน้าสมาคมวัสดุก่อสร้าง ผูกขาดกิจการก่อสร้างเมืองหลันไว้ทั้งหมด เขาจะทำให้ฉินชิงมีชีวิตที่ดีและรุ่งโรจน์ได้นะ"

"ส่วนเธอน่ะ นอกจากทำให้ฉินชิงต้องทรมานกับอับอาย ยังจะเอาอะไรมาให้เขาได้บ้าง?"

พอได้ยินคำนี้ สามีภรรยาหลิ่วฮุ่ยฟางก็พยักหน้าเห็นด้วย

หลี่เฟิงเอ่ยขึ้นเรียบๆ "เสิ่นเทียนเม่ย สิ่งที่ชั้นให้ฉินชิงได้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาสามัญอย่างพวกเธอจะจินตนาการออกหรอกนะ"

  

Related chapters

Latest chapter

DMCA.com Protection Status